ประวัติ : วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2542 เป็นวันที่โลกได้สูญเสียนักเคมีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกไป Glenn
T. Seaborg เกิดที่เมือง Spring field ในรัฐ Michigan
สหรัฐอเมริกาเมื่อปี พ.ศ. 2455
มารดาเป็นชาวสวีเดนและบิดาทำงานเป็นช่างเครื่องรถยนต์
เมื่อ Seaborg และคณะประสบความสำเร็จ สหรัฐอเมริกาก็มีระเบิดปรมาณูที่สามารถใช้การได้ 2
ลูกพร้อมกัน ซึ่งก็เป็นจำนวนที่อเมริกาต้องการ
เพราะอเมริกาตระหนักว่าการทิ้งระเบิดปรมาณูเพียงสองลูกจะยุติสงคราม
และประวัติศาสตร์ก็ได้จารึกว่า การคาดคะเนนี้ถูกต้องทุกประการ เพราะเมื่อระเบิด uranium
ได้ระเบิดที่ Hiroshima และการระเบิด plutonium
ลงที่ Nagasaki รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยินยอมเซ็นสัญญาสงบสงครามโลกครั้งที่สองทันที
คำถามที่น่าสนใจคือ ถ้า Seaborg
ผลิตธาตุ plutonium ไม่ได้
ประวัติศาสตร์ของโลกจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร คำถามนี้ คงไม่มีใครตอบได้อย่างมั่นใจเลย
ตามธรรมดา Seaborg
เป็นคนชอบเก็บสะสมวารสาร เขาชอบอ่านวารสารตั้งแต่มีอายุได้ 8 ขวบ
การอ่าน วารสารทำให้เขารู้จักนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ทำให้รู้เหตุการณ์ค้นพบใหม่ๆ
และมีข้อมูลที่จะช่วยให้เขาทำงานวิจัยต่อไปได้ดี เมื่อเขาผละจากงานบริหาร ที่ Washington
D.C. เขาก็กลับมาทำงานวิจัย ที่มหาวิทยาลัย California ที่ Berkeley เขาเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในคุณประโยชน์ของโรงไฟฟ้าพลังปรมาณูมาก
การยึดติดกับความคิดนี้ได้ทำให้เขาไม่เป็นที่ชื่นชมในบรรดานักนิเวศวิทยานัก
และเขารู้สึกว่าผลงานชิ้นสำคัญที่สุดของเขาในการทำงานเป็นผู้อำนวยการ
องค์การพลังงานปรมาณูแห่งชาติของสหรัฐฯ คือ การที่สหรัฐฯ
มีโรงไฟฟ้าปรมาณูเพิ่มมากขึ้น และเขาเชื่อว่า
โรงไฟฟ้าปรมาณูเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยแก้ปัญหาพลังงานของมนุษย์ได้ในระยะ ยาว
มรดกหนึ่งที่ Seaborg
ได้ทิ้งไว้ให้โลกก็คือ วิธีการผลิตธาตุ plutonium ปริมาณมากๆ และการมี plutonium มากนี้เองที่ได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์จากสถาบัน
Joint Institute for Nuclear Research ที่ Dubna ในประเทศรัสเซียสามารถสร้างธาตุที่ 114 ได้เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2542 นี้
ซึ่งธาตุที่ 114 นี้ถือได้ว่าเป็นธาตุแรกของบรรดาธาตุที่ค่อนข้าง superheavy
และเป็นธาตุที่ค่อนข้างเสถียรคือ มีอายุยืนนานถึง 30 วินาที
โดยคณะนักวิจัยรัสเซียได้ยิงอะตอมของธาตุ calcium-48
ให้พุ่งชนเป้าที่ทำให้ด้วย plutonium-244 ทำให้เกิดธาตุ
292114
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น