ส่วนชีวิตของโรเบิร์ต บุนเซน นั้น
เขาเติบโตมาในครอบครัวของศาสตราจารย์ด้านภาษาศาสตร์สมัยใหม่
และหัวหน้าบรรณารักษ์แห่งมหาวิทยาลัยเกิตทิงเกน
เขาได้รับการศึกษาเล่าเรียนเหมือนเด็กปกติ โดยสนใจด้านเคมีเป็นพิเศษ และเริ่มมุ่งเน้นศึกษาต่อทางด้านเคมีจนจบปริญญาเอก
ขณะที่อายุได้เพียง 22 ปีเท่านั้น
และหลังจากที่เขาเรียนจบแล้ว ก็ได้เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยเดิตทิงเกน
สถาบันเดียวกันกับพ่อและแม่
ก่อนที่จะได้รับเกียรติให้ไปสอนในมหาวิทยาลัยมาร์เบิร์ก
ซึ่งตลอดเวลาที่เป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยนั้น
เขาก็ค้นคว้าทางด้านเคมีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรักทางด้านเคมี
ทำให้เขาทดลองสารต่าง ๆ จนเกือบจะเสียชีวิตเพราะพิษสารหนูมาแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น
ตาขวาเขายังมองไม่เห็นหลังจากเกิดการระเบิดของคาโคดิลอีกด้วย
จนเมื่อปี ค.ศ.1841 โรเบิร์ต บุนเซน ได้คิดค้นแบตเตอรี่บุนเซน ที่ใช้ขั้วไฟฟ้าคาร์บอนแทนขั้วไฟฟ้าแพลตินั่มที่เคยใช้กัน หลังจากนั้นเมื่อปี ค.ศ.1851 เขาก็ได้รับเกียรติเป็นศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเบรสลอว์ และมีส่วนช่วยสอนในมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง เรียกว่าเป็นศาสตราจารย์ทางเคมีที่ได้รับการยอมรับ และโด่งดังมากที่สุดในขณะนั้น จนเมื่อปี ค.ศ.1859 เขาก็ได้งานสอน มาทดลองเคมีร่วมกับ กุสตาฟ เชอร์คอฟ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับสเปกตรัมการแผ่ของวัตถุที่ได้รับความร้อน ในการทดลองนี้ เขาได้คิดค้นตะเกียงบุนเซนขึ้น และพบว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าตะเกียงใด ๆ เพราะร้อนกว่า แถมยังสะอาดกว่าอีกด้วย และต่อมาในปี ค.ศ.1860 เขาก็ได้ค้นพบแร่ซีเซียม ที่ใช้ในโรงงานนิวเคลียร์ และค้นพบรูบิเดียม เมื่อปี ค.ศ.1861 และได้รับรางวัลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จากสวีเดนอีกด้วย
หลังจากนั้น โรเบิร์ต บุนเซน ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในห้องทดลองเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ.1899 บุนเซนก็เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยวัย 88 ปี แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ชื่อของเขาก็หาได้สูญสิ้นไปกับร่างกายไม่ บุนเซนยังคงได้รับการยกย่องและพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ในวงการวิทยาศาสตร์เคมีมาจนถึงทุกวันนี้
จนเมื่อปี ค.ศ.1841 โรเบิร์ต บุนเซน ได้คิดค้นแบตเตอรี่บุนเซน ที่ใช้ขั้วไฟฟ้าคาร์บอนแทนขั้วไฟฟ้าแพลตินั่มที่เคยใช้กัน หลังจากนั้นเมื่อปี ค.ศ.1851 เขาก็ได้รับเกียรติเป็นศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเบรสลอว์ และมีส่วนช่วยสอนในมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่ง เรียกว่าเป็นศาสตราจารย์ทางเคมีที่ได้รับการยอมรับ และโด่งดังมากที่สุดในขณะนั้น จนเมื่อปี ค.ศ.1859 เขาก็ได้งานสอน มาทดลองเคมีร่วมกับ กุสตาฟ เชอร์คอฟ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับสเปกตรัมการแผ่ของวัตถุที่ได้รับความร้อน ในการทดลองนี้ เขาได้คิดค้นตะเกียงบุนเซนขึ้น และพบว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าตะเกียงใด ๆ เพราะร้อนกว่า แถมยังสะอาดกว่าอีกด้วย และต่อมาในปี ค.ศ.1860 เขาก็ได้ค้นพบแร่ซีเซียม ที่ใช้ในโรงงานนิวเคลียร์ และค้นพบรูบิเดียม เมื่อปี ค.ศ.1861 และได้รับรางวัลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์จากสวีเดนอีกด้วย
หลังจากนั้น โรเบิร์ต บุนเซน ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ในห้องทดลองเรื่อยมา จนเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ค.ศ.1899 บุนเซนก็เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยวัย 88 ปี แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้น ชื่อของเขาก็หาได้สูญสิ้นไปกับร่างกายไม่ บุนเซนยังคงได้รับการยกย่องและพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ในวงการวิทยาศาสตร์เคมีมาจนถึงทุกวันนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น